วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ว่านสี่ทิศถูก จากเมล็ดลูกผสมฮอลแลนด์

ว่านสี่ทิศถูก ดอกใหญ่ คละสีเกิดเมล็ดลูกผสมดอกใหญ่ ซื้อไปเป็นต้นเดียวในโลกแน่นอน เก็บไว้ลุ้นราคาไม่แพง nnb2@windowslive.com   หัวละ  90  บาท  เท่านั้น   ค่าส่งด่วนพิเศษเริ่มที่  80  บาท
  ดูเพื่อมเติมที่ http://anymass.com/nawin

http://www.nanagarden.com/7707

งานสมุนไพรและไม้มงคล


ว่านรางเงิน พุทธรักษา ถูก

รายละเอียด
ปลูกไว้ดูเล่นแบ่งขายล้างราก แบ่งกอพอดีปลูก มีดังนี้
พุทธรักษาดอกเหลือง กอละ 30 บาท
พุทธรักษาดอกชมพู กอละ 30 บาท
ต้นเบิร์ด ออฟ พาราไดซ์ ดอกเหลือง กอละ 30 บาท
กระทือ กอละ 35 บาท
ไพรดำ กอละ 35 บาท
ว่านรางเงิน หัวละ 50 บาท
กล้วยไม้ม้าวิ้ง ต้นละ 50 บาท
สั่ง ที่ nnb2@windowslive.com
สั่ง จอง ที่ nnb2@windowslive.com
ค่าส่ง 80 บาท หรือตามน้ำหนัก
ดูได้ที่    http://anymass.com/nawinhttp://www.nanagarden.com/7707

 http://yimpaen.com/f_view.php?f=nawinttm&b=5&p_id=2

วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ลิงค์เกี่ยวกับ pbl

ลิงค์เกี่ยวกับ pbl
http://pbl.wu.ac.th/
http://pbl.igetweb.com/index.php?mo=3&art=544019
http://www.kroobannok.com/5880
http://www.vcharkarn.com/vblog/37131
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/327113
http://pirun.kps.ku.ac.th/~b5127046/link18-5.html
http://masterorg.wu.ac.th/source/content.php?menu_id=27&menuid=12&paths=pbl
ตัวอย่าง
ขั้นตอนการเรียนรู้ PBL
 
   
ขั้นตอนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
กลุ่มย่อย
กลุ่มย่อย
ขั้นตอนที่ 1  ทำความเข้าใจคำศัพท์และข้อความของปัญหา
                  ให้ชัดเจน (
Clarifying unfamiliar terms)
ขั้นตอนที่ 2  ระบุปัญหาหรือข้อมูลสำคัญ
(Problem Definition)
ขั้นตอนที่ 3  ระดมสมอง (
Brainstorm)
ขั้นตอนที่ 4  วิเคราะห์ปัญหา (
Analyzing the problem)
ขั้นตอนที่ 5  กำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้         
                    (
Formulating learning issues)


ขั้นตอนที่ 6  เรียนรู้ด้วยตนเอง (Self - study)
ขั้นตอนที่ 7  รายงานผล (Reporting)
เรียนรู้ด้วยตนเอง
  การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและมีหลักการเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานมี 7 ขั้นตอน ดังนี้
Step 1: Clarifying unfamiliar terms
               กลุ่มผู้เรียนทำความเข้าใจคำศัพท์ ข้อความที่ปรากฎอยู่ในปัญหาให้ชัดเจน โดยอาศัยความรู้พื้นฐานของสมาชิกในกลุ่มหรือการศึกษาค้นคว้าจากเอกสารตำราหรือสื่ออื่นๆ
Step 2: Problem definition
              กลุ่มผู้เรียนระบุปัญหาหรือข้อมูลสำคัญร่วมกัน โดยทุกคนในกลุ่มเข้าใจปัญหา เหตุการณ์ หรือปรากฎการณ์ใดที่กล่าวถึงในปัญหานั้น
Step 3: Brainstorm
               กลุ่มผู้เรียนระดมสมองวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ และหาเหตุผลมาอธิบาย โดยอาศัยความรู้เดิมของสมาชิกกลุ่ม เป็นการช่วยกันคิดอย่างมีเหตุมีผล สรุปรวบรวมความรู้และแนวคิดของกลุ่มเกี่ยวกับกลไกการเกิดปัญหา เพื่อนำไปสู่การสร้างสมมติฐานที่สมเหตุสมผลเพื่อใช้แก้ปัญหานั้น
Step 4: Analyzing the problem
              กลุ่มผู้เรียนอธิบายและตั้งสมมติฐานที่เชิ่มโดยงกันกับปัญหาตามที่ได้ระดมสมองกัน แล้วนำผลการวิเคราะห์มาจัดลำดับความสำคัญ โดยใช้พื้นฐานความรู้เดิมของผู้เรียน การแสดงความคิดอย่างมีเหตุผล
Step 5: Fomulating learning issues
           กลุ่มผู้เรียนกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ เพื่อค้นหาข้อมูลที่จะอธิบายผลการวิเคราะห์ที่ตั้งไว้ ผู้เรียนสามารถบอกได้ว่าความรู้ส่วนใดรู้แล้ว ส่วนใดต้องกลับไปทบทวน ส่วนใดยังไม่รู้หรือจำเป็นต้องไปค้นคว้าเพิ่มเติม
Step 6: Self-study
               ผู้เรียนค้นคว้ารวบรวมสารสนเทศจากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-directed learning)
Step 7: Reporting
              จากรายงานข้อมูลสารสนเทศใหม่ที่ได้เข้ามา กลุ่มผู้เรียนนำมาอภิปราย วิเคราะห์ สังเคราะห์ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ แล้วนำมาสรุปเป็นหลักการและแนวทางเพื่อนำไปใช้โอกาสต่อไป


ส่วนส่งเสริมวิชาการ อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยลักษณ์ ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ. นครศรีธรรมราช 80160
โทร. -66-7567 -3790-1 แฟกซ์ +66-75673756    ผู้พัฒนาระบบ

การเรียนแบบ pbl

AgriTech KM System Rotating Header Image

Home > การเรียนการสอน > Problem-based Learning : ตัวอย่างการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ


ณัฐกร สงคราม.

Problem-based Learning : ตัวอย่างการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

จากการร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างอาจารย์รุ่นใหม่ๆ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (23 ธ.ค. 52) พบว่าส่วนใหญ่ทุกท่านก็มีการจัดกิจกรรมหรือใช้เทคนิควิธีการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาบ้างแล้ว แต่เพื่อให้อาจารย์มองเห็นภาพของการจัดกิจกรรมตามแนวคิดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้ชัดเจน ผมจะทยอยๆ นำรูปแบบหรือเทคนิควิธีการต่างๆ ตามที่มีนักการศึกษาได้คิดค้นขึ้นมามานำเสนอเพิ่มเติมนะครับ เรื่องแรกที่จะยกตัวอย่างก็คือ รูปแบบการเรียนที่ใช้เป็นปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning) ซึ่งนิยมใช้มากในการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญหรือการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ความเป็นมาของการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก
การเรียนที่ใช้เป็นปัญหาเป็นหลัก เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่เริ่มจากคณะเพทย์ที่มหาวิทยาลัยแมคมาสเตอร์ ประเทศแคนาดา ซึ่งคิดค้นวิธีที่จะทำให้ผู้เรียนมีบทบาทที่กระตือรือร้นต่อการเรียนตลอดกระบวนการเรียนการสอน และช่วยให้ความเครียดของผู้เรียนต่ำลง ทางคณะฯจึงจัดให้มีการเรียนรู้ในกลุ่มเล็กในลักษณะการเรียนรู้แบบทบทวน โดยให้มีกระบวนการศึกษาด้วยการแก้ปัญหาจากสถานการณ์จริงจากกรณีผู้ป่วยจริง และการรักษาพยาบาลจริง ต่อมาจึงได้เผยแพร่แนวคิดนี้ไปยังนานาประเทศทั่วโลกแล้ว
ความหมายของการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก
ถ้าพูดถึงคำจำกัดความก็สามารถสรุปได้ว่า “การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning) หมายถึง รูปแบบการเรียนการสอนที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยใช้สถานการณ์ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้เพื่อนำมาแก้ปัญหานั้น
ลักษณะที่สำคัญของการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก (มัณฑรา ธรรมบุศย์, 2545)
1.    ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแท้จริง (student-centered learning)
2.    การเรียนรู้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้เรียนที่มีขนาดเล็ก
3.    ครูผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวก (facilitator) หรือผู้ให้คำแนะนำ  (guide)
4.    ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้
5.    ปัญหาที่นำมาใช้มีลักษณะคลุมเครือไม่ชัดเจน   ปัญหา 1 ปัญหาอาจมีคำตอบได้หลายคำตอบหรือมีทางแก้ไขปัญหาได้หลายทาง (ill- structured problem)
6.    ผู้เรียนเป็นคนแก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อมูลใหม่ ๆ ด้วยตนเอง  (self-directed learning)
7.    ประเมินผลจากสถานการณ์จริง โดยดูจากความสามารถในการปฏิบัติ  (authentic assessment)
กระบวนการของการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก
Bridges (1992) ได้จำแนกการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักที่นำไปใช้ในห้องเรียนออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบเน้นปัญหา (problem-stimulated PBL) และแบบเน้นผู้เรียน (Student Centered PBL)
1. การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักที่เน้นปัญหา (Problem-stimulated PBL) รูปแบบนี้จะใช้บทบาทของปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะแนะนำและเรียนรู้ความรู้ใหม่ การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักที่เน้นปัญหานี้ให้ความสำคัญกับเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ 1) การพัฒนาทักษะเฉพาะเจาะจง  (domain-specific skills) 2) การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา (problem-solving skills) และ 3) การได้มาซึ่งความรู้เฉพาะเจาะจง (domain-specific knowledge) โดยประกอบด้วยกระบวนการดังต่อไปนี้
1.1    ผู้เรียนได้รับทรัพยากรการเรียนรู้ ดังนี้
1.1.1    ปัญหา
1.1.2    วัตถุประสงค์ที่ผู้เรียนคาดหวังว่าจะได้รับขณะปฏิบัติการแก้ปัญหา
1.1.3    รายการอ้างอิงของทรัพยากรต่างๆ ที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์พื้นฐาน
1.1.4    คำถามที่เน้นมโนทัศน์ที่สำคัญและการประยุกต์ใช้ฐานความรู้
1.2    ผู้เรียนร่วมกันทำงานเป็นกลุ่มเพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ สามารถแก้ปัญหา และทำให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้
1.2.1    ผู้เรียนแต่ละคนมีบทบาทหน้าที่ต่างๆ กันในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นบทบาทผู้นำ ผู้ช่วยเหลือ ผู้บันทึก และสมาชิกกลุ่ม
1.2.2    จัดสรรเวลาที่ชัดเจนในแต่ละช่วงของโครงการ
1.2.3    จัดตารางกิจกรรมการปฏิบัติงานของทีมและวางแผนให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนด
1.3    ความสามารถของผู้เรียนถูกวัดโดยผู้สอน เพื่อนร่วมชั้น และตัวผู้เรียนเองโดยใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การสังเกต และวิธีการประเมินอื่นๆ กระบวนการทั้งหมด ผู้สอนจะทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนแก่กลุ่ม และให้คำแนะนำ รวมทั้งกำหนดทิศทางถ้ากลุ่มร้องขอหรือเกิดปัญหาอุปสรรคในการทำงาน
2. การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักที่เน้นผู้เรียน (Student Centered PBL) รูปแบบนี้คล้ายกับรูปแบบแรกในบางลักษณะ เช่น มีเป้าหมายเหมือนกัน แต่มีสิ่งที่มากกว่าคือ  ส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Fostering life-long learning skills) กลุ่มแพทย์เป็นผู้ที่ต้องการการพัฒนาทำงานอยู่ตลอดเวลา ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงเป็นส่วนที่สำคัญในการปฏิบัติงาน  เพราะฉะนั้นโรงเรียนแพทย์จึงนิยมใช้รูปแบบนี้ในการเรียนการสอน  โดยประกอบด้วยกระบวนการที่คล้ายกับรูปแบบแรกดังต่อไปนี้
2.1    ผู้เรียนได้รับสถานการณ์ของปัญหา
2.2    ผู้เรียนทำการฝึกปฏิบัติการแก้ปัญหาในรูปแบบกลุ่ม
2.3    ผู้เรียนถูกประเมินผลโดยวิธีการที่หลากหลายโดยผู้สอน เพื่อนร่วมชั้น และตัวผู้เรียนเอง
แม้กระบวนการดังกล่าวจะมีความใกล้เคียงกับรูปแบบแรก แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือในกระบวนการแต่ละขั้นตอนนั้นจะถูกขับเคลื่อนโดยเป้าหมายของการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยภาระความรับผิดชอบของผู้เรียนมีดังนี้
1)    ผู้เรียนระบุปัญหาการเรียนรู้ที่พวกเขาต้องการค้นหา
2)    ผู้เรียนกำหนดเนื้อหาที่ต้องการศึกษา
3)    ผู้เรียนกำหนดและค้นหาแหล่งข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้
4)    โดยสรุปแล้ว ผู้เรียนกำหนดประเด็นที่ต้องการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยตัดสินใจว่าจะใช้ข้อมูลและความรู้ใหม่ที่ได้รับมาแก้ปัญหาได้อย่างไรจึงจะเหมาะสม
จากทั้ง 2 แนวทาง สามารถสรุปได้ว่า กระบวนการเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก น่าจะประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ดังนี้
1. เตรียมความพร้อมผู้เรียน
ผู้สอนทำการปฐมนิเทศเพื่อให้ผู้เรียนทราบวิธีการเรียนการสอน บทบาทของผู้สอนผู้เรียน การแบ่งกลุ่มผู้เรียน รวมทั้งระยะเวลาในการเรียนหรือเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
2. เสนอสถานการณ์ของปัญหา
ผู้สอนเกริ่นนำเพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมของผู้เรียนกับสถานการณ์ที่ผู้เรียนจะได้พบ จากนั้นจึงนำเสนอสถานการณ์ปัญหาพร้อมทั้งแจ้งวัตถุประสงค์หรือประเด็นปัญหาที่ต้องการให้แก้ไข รวมทั้งบอกแหล่งข้อมูลที่เตรียมไว้และแหล่งข้อมูลภายนอกที่ผู้เรียนสามารถเข้าไปค้นคว้าได้
3. กำหนดกรอบการศึกษาผู้เรียนวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาร่วมกันภายในกลุ่มเพื่อกำหนดกรอบหรือขอบเขตที่จะศึกษาแนวทางการแก้ปัญหา จากนั้นวางแผนการดำเนินงานและแบ่งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ
4. สร้างสมมติฐานผู้เรียนระดมความคิดเห็นจากสมาชิกทุกคนในกลุ่ม เพื่อเชื่อมโยงแนวคิดของแต่ละคน ซึ่งอาศัยความรู้เดิมเป็นข้อมูลในการสร้างสมมติฐานโดยสร้างสมมติฐานให้ได้มากที่สุด จากนั้นร่วมกันคัดเลือกแต่สมมติฐานที่น่าจะเป็นไปได้ และคัดที่ไม่น่าจะใช่ทิ้งไป
5. ค้นคว้าข้อมูลเพื่อพิสูจน์สมมติฐานในขั้นตอนนี้ผู้เรียนแต่ละคนหรือทั้งกลุ่มค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลภายในและภายนอกตามที่ได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
6. ตัดสินใจเลือกแนวทางแก้ปัญหา
สมาชิกในกลุ่มประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาเลือกสมมติฐานที่น่าจะถูกต้องที่สุดในการนำไปใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา โดยใช้ข้อมูลที่ไปศึกษาค้นคว้ามาประกอบการตัดสินใจ หรือหากมีสมมติฐานที่น่าจะถูกต้องมากกว่าหนึ่ง ก็ให้จัดเรียงลำดับความน่าจะเป็น
7. สร้างผลงาน หรือปฏิบัติตามทางเลือก
นำแนวทางที่เลือกไปทดลองแก้ปัญหา หากแก้ปัญหาไม่ได้ก็ให้ใช้ทางเลือกข้อถัดไป หรือค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงทางเลือกนั้นให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและนำไปทดลองใหม่อีกครั้ง (ในการนำไปใช้จริงๆ อาจไม่ต้องให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติการทดลองแก้ปัญหาจริงก็ได้ หากปัจจัยต่างๆ ไม่เอื้อ อาจใช้แค่การให้ผู้เรียนตรวจสอบแนวทางการแก้ปัญหาของกลุ่มตนด้วยการสอบถามผู้เชี่ยวชาญภายนอกก็ได้)
8. ประเมินผลโดยวิธีที่หลากหลาย
โดยกลุ่มนำเสนอผลการแก้ปัญหาหรือแนวทางการแก้ปัญหาหน้าชั้นเรียน และทำการประเมินทั้งจากผู้สอน ผู้เรียนกลุ่มอื่นและกลุ่มที่นำเสนอเอง รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญหรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง การประเมินจะไม่วัดเฉพาะความรู้หรือผลงานสุดท้ายเพียงอย่างเดียว แต่จะวัดกระบวนการที่ได้มาซึ่งผลงานด้วย ซึ่งการประเมินสามารถวัดได้จากแบบทดสอบ แบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การสังเกต หรือวิธีการประเมินอื่นๆ
สรุป
การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ มากกว่าการรับฟังเนื้อหาจากครูผู้สอนเพียงฝ่ายเดียว สิ่งสำคัญก็คือสถานการณ์ปัญหาหลักหรือกรณีศึกษาที่นำมาใช้เป็นแรงกระตุ้นและผลักดันให้ผู้เรียนนำความรู้ หรือประสบการณ์ที่มีอยู่เดิมมาใช้แก้ปัญหา ดังนั้นลักษณะของปัญหาต้องมีความน่าสนใจ ท้าทายและน่าค้นหาคำตอบ รวมทั้งควรเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อผู้เรียนจะได้แสดงความสามารถในการแก้ปัญหาโดยการระบุประเด็น โครงสร้าง และเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง
การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลักทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ในเนื้อหาวิชาที่เป็นการบูรณาการ และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหา การใช้เหตุผลในการคิดวิเคราะห์ และตัดสินใจ  อีกทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพราะการที่ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการเรียน โดยการกำหนดจุดมุ่งหมายการเรียน รู้วิธีการแสวงหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆ รวบรวมความรู้และนำมาสรุปเป็นความรู้ใหม่ เป็นลักษณะของการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นทักษะการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต การให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอภิปราย มีวิธีการแสวงหาความรู้และไตร่ตรองทรัพยากรการเรียน ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความหมายสำคัญ ช่วยให้ผู้เรียนเป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม ซึ่งการเรียนเป็นกลุ่มย่อยทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้อื่นทำให้มีความรู้กว้างขวางมากขึ้น นับเป็นการพัฒนาทักษะทางสังคมให้เกิดกับผู้เรียน
อย่างไรก็ตาม การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก มีข้อจำกัด คือ เป็นการเรียนที่เหมาะสำหรับสายวิชาชีพซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับทุกรายวิชา และในการนำมาใช้ต้องมีการวางแผนและเตรียมการเป็นอย่างดี ผู้สอนจะต้องมีทักษะในการเป็นผู้สอนประจำกลุ่ม ผู้เรียนจะต้องมีความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ของตนเองและให้ความร่วมมือในการเรียนร่วมกัน เป็นห้องเรียนที่เปิดกว้าง และมีแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนศึกษาได้อย่างอิสระ
—————————————————-
การเรียนที่ใช้ปัญหาเป็นหลัก เป็นรูปแบบการเรียนที่อาจต้องใช้ระยะเวลาที่นานเป็นสัปดาห์ เดือน หรือทั้งภาคเรียนเพื่อให้ครบกระบวนการ ในครั้งต่อไปผมจะลองนำการจัดในลักษณะของเทคนิคการสอนที่ใช้เวลาไม่นาน อาจจัดได้ภายในชั่วโมงเรียนนั้นๆ มาเป็นตัวอย่าง เผื่ออาจารย์จะลองนำไปทดลองใช้ดูนะครับ
เอกสารอ้างอิง…
มัณฑรา ธรรมบุศย์ (2545) “การพัฒนาคุณภาพการเรียนรูโดยใช้ PBL (Problem-Based Learning),” วารสารวิชาการ ปีท่ี 5 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2545 หน้า 11-17.
Bridges, E. M. (1992). Problem based learning for administrators. Eugene, OR: ERIC Clearinghouse on Educational Management. (ERIC Document Reproduction Service No. ED 347 617)

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

10 อันดับดอกไม้สวย

10 อันดับ ดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลก


อันดับที่ 10
ดอกกุหลาบ
     ดอกกุหลาบเป็นหนึ่งในที่สุดโรแมนติกและมหัศจรรย์หอมของดอกไม้ ของดอกกุหลาบให้แพร่หลายในประเพณีและความหมายทางวัฒนธรรมจากสีเหลืองเพิ่มขึ้นของมิตรภาพเพื่อแดงเข้มเพิ่มขึ้นของความรักที่แท้จริง



อันดับที่ 9
ดอกผกากรองหรือLantana
     ดอกไม้เหล่านี้ละเอียดอ่อนที่มีกลีบดอกสีชมพูและสีเหลืองของพวกเขาจะแม่เหล็กผีเสื้อ พุ่มไม้ที่สามารถเติบโตได้มีขนาดใหญ่มากและสีของการเปลี่ยนแปลงกลีบเป็นพืชอายุ ระวัง -- Lantana ถือว่าเป็นวัชพืชโดยมากมายที่ค่อนข้างยากที่จะกำจัด


อันดับที่ 8
ดอกระฆังหรือBlue Bells
     ในฤดูใบไม้ผลิป่ายุโรปจำนวนมากถูกปกคลุมด้วยพรมหนาแน่นของดอกไม้นี้เหล่านี้เป็นที่เรียกทั่วไปว่า"ไม้ดอกไม้ชนิดหนึ่ง" มันเป็นความคิดที่พวกเขาตั้งชื่อโดยกวีโรแมนติกของศตวรรษที่ 19, ผู้ที่รู้สึกว่าเหงาสัญลักษณ์และเสียใจ



อันดับที่ 7
ดอกโลหิตแห่งหัวใจหรือดอกหทัยหยาดทิพย์หรือBleeding Heart

หตุที่เขาได้ชื่อว่า bleeding heart ก็เพราะว่า เมื่อดอกเขาผลิใหม่ ๆ ยังตูม ๆอยู่ที่ปลายแหลมของหัวใจด้านล่าง จะมีติ่งรูปร่างคล้ายหยดน้ำ มีสีแดง ๆ ดูเหมือนหยดเลือด  แต่เมื่อดอกเริ่มบาน  ตัวหยดจะเปิดออกให้เห็นใส้สีขาว ๆ อยู่ข้างใน คราวนี้จะเห็นหยดน้ำไหลออกมาจากหัวใจแทน คนเยอรมันเห็นตรงนี้เหมือนหยดน้ำตา เลยเรียกดอกนี้ว่า  Traenendes herz ดอกหัวใจเจ้าน้ำตา  ลองดูจากรูป รูปข้างบน หรือรูปข้างล่างก็ได้ ก็จะเห็นตามที่ว่านี้



อันดับที่ 6

ดอกซูซานตาดำหรือBlack Eyed Susan

ซูซานตาดำ, wildflower ร่าเริงอยู่ตลอดกาลที่ทำหน้าที่เป็นแบบเลื่อนกลับที่สวยงามในสวนใด ๆความคมชัดของสีทองสดใสกลีบดอกสีเหลืองและสีดำตรงกลางจะทำให้ง่ายต่อการใด ๆจุดหนึ่งและทราบว่าเป็น



อันดับที่ 5


คาลล่า ลิลลี่ หรือCalla Lily

คาลล่า ลิลลี่ (Calla Lily) เป็นพันธุ์ไม้หัว ที่มีหลากหลายสายพันธุ์ มีต้นกำเนิดในแอฟริกาใต้ สามารถแบ่งได้เป็น 2 สายพันธุ์ค่ะ คือพันธุ์ไม้ยืนต้น ที่ปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก (Cut Flower) และพันธุ์ไม้ล้มลุก ซึ่งจะมีการพักหัวในฤดูหนาว นิยมปลูกเป็นไม้กระถาง (Pot Flower) ถึงแม้คาลล่า ลิลลี่จะเป็นทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่าสำหรับเกษตรกร ที่ต้องการปลูกเพื่อเป็นไม้ตัดดอก เนื่องจากลงทุนปลูกครั้งเดียว แต่สามารถตัดดอกขายได้ต่อเนื่องนานถึง 4- 5 ปีโดยไม่ต้องขุดหัวขั้นมาปลูกใหม่ แต่คาลล่า ลิลลี่ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่องอุณหภูมิในการปลูก เหมาะสำหรับเกษตรกรที่อยู่บนที่สูงหรือบนดอย ที่มีอุณหภูมิที่ 18 - 24 องศาเซลเซียส





อันดับที่ 4
ดอกไฮเดรนเยีย
    ไฮเดรนเยีย(Hydrangea)เป็นไม้พุ่งสูง1-3เมตรจัดเป็นพืชหลายฤดูชอบอากาศหนาวเย็น บางชนิดเป็นไม้ยืนต้น
หรือไม้เลื้อยแต่ส่วนใหญ่มักเป็นไม้พุ่มเตี้ยใบเกิดแบบตรงข้ามแผ่นใบมีขนาดกว้างใหญ่ขอบใบจักช่อดอกเกิดส่วนปลายกิ่งหรือยอด
ลำต้นดอกประกอบด้วยใบประดับที่มีสีสวยงามแล้วแต่พันธุ์ ไฮเดรนเยียอาจผลัดใบหรือไม่ผลัดใบก็ได้แต่ถ้าเป็นชนิด
ที่อยู่ในเขตอบอุ่นจะผลัดใบพักตัวในฤดูหนาวดอกของไฮเดรนเยียเกิดที่ปลายยอดกิ่งหรือยอดลำต้น เป็นช่อดอกแบบช่อเชิง
หลั่นหรือช่อแยกแขนง(corymbsorpanicles) ช่อดอกประกอบด้วยดอกสองแบบคือกลุ่มดอกสมบูรณ์เพศซึ่งมีขนาดเล็ก
ที่อยู่บริเวณใจกลางช่อดอกใหญ่ ส่วนกลุ่มดอกที่มีขนาดดอกย่อยใหญ่สะดุดตานั้นความจริงเป็นดอกที่เกิดจากกลีบดอก
ประดับดูสะดุดตา เกิดเป็นวงรอบขอบนอกของช่อดอกใหญ่ไฮเดรนเยียบางชนิดมีช่อดอกซึ่งประกอบด้วยดอกย่อยสมบูรณ์เพศ
ทั้งช่อเลยก็มี ดอกไฮเดรนเยียส่วนใหญ่จะมีสีขาวเป็นหลัก แต่บางชนิด เช่น H. macrophylla อาจเป็นสีน้ำเงิน แดง
ชมพูหรือม่วง ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความเป็นกรดหรือด่างของเครื่องปลูก หากเครื่องปลูกมีสภาพเป็นกรด pH 5.0-5.5สีดอกจะออก
เป็นสีน้ำเงิน ถ้าสภาพเป็นด่างจะให้ดอกสีม่วงหรือชมพูถ้าปลูกในเครื่องปลูกที่สภาพเป็นกลางดอกไฮเดรนเยียจะมีสีครีมซีด
ทั้งนี้เพราะไฮเดรนเยียเป็นหนึ่งในบรรดาพืชไม่กี่ชนิดที่สะสมธาตุอะลูมินัม ธาตุนี้จะถูกปลดปล่อยออกมาจากเครื่องปลูก
ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ธาตุนี้จะทำปฏิกิริยากับสารละลายในกลีบดอกทำให้เกิดสีน้ำเงินขึ้นได้ ปกติไฮเดรนเยียต้องการดินที่เป็นกรดอ่อน
pH 6.0-6.5 จะเติบโตได้ดี
    


อันดับที่ 3

ดอกปักษาสวรรค์

ปักษาสวรรค์มีใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอกแกมขอบขนาน คล้ายใบกล้วย ปลายใบแหลม โคนมนถึงสอบ ขอบเรียบกว้าง 10 - 15 ซม. ยาว 30 - 60 ซม. ก้านใบยาว 30 -60 ซม. บริเวณช่วงต่อกับแผ่นใบกลมมน โคนก้านใบแผ่แบนเป็นกาบโอบรอบต้น
จะเริ่มให้ดอกเมื่ออายุ 3 - 6 ปี ดอกมีรูปทรงคล้ายนกที่กำลังกางปีก อาจจะออกเป็นดอกเดี่ยว หรือเป็นช่อประมาณ 3 -7 ดอก ออกจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกกลม มีกาบรองดอกรูปเรือรองรับดอกย่อย แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบเลี้ยงรูปหอกแคบยาว 3 กลีบ และกลีบดอกรูปหัวลูกศร 2 กลีบ ส่วนปลายกลีบห่อติดกัน มีเกสรเพศผู้และเพศเมียอยู่ภายใน ตอนปลายสุดของหัวลูกศรมียอดเกสรเพศเมียสีน้ำตาลยื่นออกมา เมื่อดอกบานเต็มที่มีความยาว 8 - 12 ซม. ทยอยบานจากโคนช่อไปปลายช่อ ผลมีรูปรี จะแห้งและแตก ภายในมีเมล็ด 3 เมล็ด รูปกลม มีเปลือกหนาสีดำ

[แก้]
canna picture
canna flower picture
canna lily picture

อันดับที่ 2
ดอกพุทธรักษา
     พุทธรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก เนื้ออ่อนอวบน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร มีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า เหง้า มีการเจริญเติบโตโดยแตกหน่อเป็นกอคล้ายกับกล้วย ลักษณะหน่อที่เจริญเป็นต้นเหนือพื้นดินนั้นมีลักษณะกลมแบนสีเขียวขนาดลำต้นโตประมาณ 2-4 เซนติเมตร ใบมีขนาดใหญ่สีเขียวโคนใบและปลายใบรีแหลม ขอบใบเรียบ กลางใบเป็นเส้นนูนเห็นได้ชัดโคนใบมีก้านใบซึ้งยาวเป็นกาบใบหุ้มลำต้นซ้อนสลับกัน ขนาดใบกว้างประมาณ 10-15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 25-35 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ประกอบด้วยดอก 8-10 ดอก และมีกลีบดอกบางนิ่ม ขนาดของดอกและสีสรรแตกต่างกันไปตามชนิดพันธ

อันดับที่ 1 

ดอกซากุระ

ซากุระ (ภาษาญี่ปุ่น : 桜 หรือ 櫻) เป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น มีถิ่นกำเนิดในจีนตอนใต้ เกาะไต้หวัน หมู่เกาะโอกินาวา ญี่ปุ่น ลักษณะเด่นของซากุระก็คือ เมื่อร่วง จะร่วงพร้อมกันหมด ซากุระจึงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดทหารและซามูไรของญี่ปุ่น
มีดอกซากุระในเกาหลีสหรัฐอเมริกาแคนาดาจีน หรือที่อื่นๆ แต่ไม่มีกลิ่น ขณะที่ซากุระของญี่ปุ่นนั้นผู้คนจำนวนมากยกย่องชื่นชมกลิ่นของมัน และมักจะกล่าวฝากไว้ในบทกวี
ดอกซากุระของญี่ปุ่นนี้ ในภาษาอังกฤษมีคำเรียกทั่วไปว่า “cherry blooms” หรือ “cherry blossom” หรือไม่ก็ “Japanese Flowering Cherry” จะบานในช่วงปลายมีนา-ต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้นจากฤดูหนาวที่หมดไป
ดอกซากุระ ในภาษาญี่ปุ่นนั้น เชื่อกันว่ากร่อนมาจากคำว่า ซะกุยะ (หมายถึง ผลิบาน) อันเป็นชื่อของเจ้าหญิง โคโนฮะนะซะคุยาฮิเม มีศาลบูชาของพระองค์อยู่บนยอดเขาฟูจิด้วย สำหรับพระนามของเจ้าหญิงองค์ดังกล่าวนั้น มีความหมายว่าเจ้าหญิงดอกไม้บาน และเนื่องจากซากุระเป็นดอกไม้ที่นิยมกันมากในญี่ปุ่นสมัยนั้น คำว่าดอกไม้ดังกล่าวจึงหมายถึงดอกซากุระนั่นเอง เจ้าหญิงองค์ดังกล่าวได้รับพระนามเช่นนั้น ก็เพราะมีเรื่องเล่ามาว่าทรงตกจากสวรรค์ มาบนต้นซากุระ ดังนั้น ดอกซากุระจึงถือเป็นตัวแทนของดอกไม้ญี่ปุ่น ขณะที่รัฐบาลประกาศให้ดอกเก็กฮวย (ดอกเบญจมาส) เป็นดอกไม้ประจำชาติ

สุดท้ายดอกเบี้ยนี่ออกดอกดีจริงจริง

   

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555


รายการยาวิทยาลัยการสาธารณสุขสินินธร จ.พิษณุโลก



                                   
                                               รายการยาสมุนไพร
วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก  (ศูนย์แพทย์แผนไทย)
653 หมู่ที่ 8  ต.วังทอง  อ.วังทอง  จ.พิษณุโลก  65130 โทร.055-311025,311177 ต่อ 642 





ที่เวชภัณฑ์สำเร็จรูปสรรพคุณราคาต่อ
หน่วย(ไม่เบิก)
1ยาบำรุงมดลูกกระชับมดลูก  บรรเทาเนื้องอกในมดลูก70
2ยาลดน้ำหนักสูตร 1ลดน้ำหนัก ลดไขมันในเลือด บรรเทาเหน็บชา มึนงง80
3ยาเลือดลมแก้ประจำเดือนเป็นลิ่มดำ แก้ลมบรรเทาหน้าเป็นฝ้าจากระดู70
4ยาส้มแขกลดน้ำหนัก ลดไขมันในเลือด 70
5ยาเพชรสังฆาตบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร70
6ยาเบญจธาตุแก้ลมวิงเวียน อ่อนเพลีย ช่วยเจริญอาหาร70
7ยา 25 ฟ้าสว่างบำรุงตับ ม้าม น้ำดี70
8ยาดมโบราณดมบรรเทาอาการวิงเวียน คัดจมูก บรรเทาอาการหืด ไอ20
9ยาบำรุงสมองบำรุงสมอง อายุวัฒนะ10
10ยามหาทิพรสแก้โลหิต ปกติโทษทุกประเภทเป็นยาสาธารณโลหิต250
11ยา N Rบำรุงกำลัง โดยเฉพาะท่านชาย100
12น้ำมันเหลืองนวดแก้ปวดเมื่อย แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย50
13ชาเพชรมงกุฏดื่มบำรุงโลหิต บรรเทาความผิดปกติของโลหิต25
14กำลังราชสีห์บำรุงโลหิต แก้ประจำเดือนผิดปกติ แก้เลือดลมผิดปกติ70
15ยาต้มบำรุงกำลังบำรุงร่างกาย แก้เส้นเอ็นพิการ80
16ยาปลูกไฟธาตุช่วยเผาผลาญไขมัน ปรับประจำเดือนให้ปกติ บรรเทาฝ้า70
หน้าดำ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน อายุวัฒนะ
17ยาลดน้ำหนักสูตร 2เร่งการเผาผลาญพลังงาน ทำให้เกิดกำลัง บรรเทาอาการปวดเมื่อย70
18ยาแก้ปวดข้อบรรเทาอาการปวดข้อ ทำให้หัวเข่ามีกำลัง70
19ยาหอมสินธรบรรเทาอาการเป็นลม คลื่นเหียน วิงเวียน25
20ยาอายุวัฒนะบำรุงร่างกาย70
21ยาพรหมภักร์น้อยช่วยระบาย70
22ยาห้ารากกระทุ้งไข้พิษ ไข้กาฬ แก้ไข้ หัด สุกใส งูสวัด เริมไฟลามทุ่ง70
23ยาปัตฆาต 23แก้ปวดหลัง เส้นหลังตึง70
24ยาสลายลิ่มเลือดรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต สลายลิ่มเลือดที่อุดตัน70
25ยาพรหมประสิทธิ์เป็นยาถ่ายเส้น ถ่ายกษัยพรรดึก ยาอายุวัฒนะ15
26ยาสตรีทองนพเก้าบรรเทาการเกิดสิว  ช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส  บำรุงมดลูก100
27อินทรีย์ธาตุประชุมปรับธาตุทั้ง 4 ป้องกันโรค70
28ชาดอกคำฝอยลดไขมันในเส้นเลือด25
29ยาหญ้าใต้ใบแก้ไข้ บำรุงตับและไต ลดเบาหวาน70
30พิมเสนน้ำแก้หวัด คัดจมูก25
31ยาหม่องใช้ทาถูนวดแก้ปวดเมื่อย แมลงสัตว์กัดต่อย25
32ฟ้าทะลายโจรแก้เจ็บคอ ทอลซินอักเสบ แก้ไข้70
33ยาจันทลีลาแก้ไข้ 3 ฤดู70
34น้ำมันเขียวแก้ภูมิแพ้ ริดสีดวงจมูก ห้อเลือด70
35ยากำลังแสงสุรีย์บำรุงโลหิต แก้เลือดลม70
36ยาประดงบรรเทาอาการผื่นคัน น้ำเหลืองเสีย70
37ยาธรณีสัณฑฆาตแก้ลมเถาดานในท้อง  ช่วยระบาย70
38ยาเหงือกปลาหมอ/พริกไทยแก้ภูมิแพ้ อายุวัฒนะ ตัดรากฝี70
39ยากวาวเครือขาวบำรุงผิวพรรณหญิง เพิ่มฮอร์โมนในหญิง100
40ยาขมิ้นแคปซูลขับลมในลำใส้ บรรเทาอาการโรคกระเพาะ70
41ยาแคปซูลขี้เหล็กช่วยระบาย ช่วยให้นอนหลับ70
42ยามะระขี้นกแคปซูลกระตุ้นน้ำดี ลดน้ำตาลในเลือด70
43ยาหญ้านางแดงถอนพิษ บำรุงหัวใจ70
44ยารางจืดถอนพิษ 70
45ยาเถาวัลย์เปรียงแก้ปวดเส้นเอ็น ปวดเมื่อย70
46ยาบอระเพ็ดแคปซูลลดไข้ แก้ร้อนใน70
47ยานหารูพิการ แก้ปวดเมื่อยเส้นเอ็นตามร่างกาย70
48ยาพรหมภักร์กลางเป็นยาระบาย  แก้ปวดกระดูก15
49ชาเจียวกูหลั่นบำรุงธาตุ25
50ชาใบหม่อนต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำตาลในเลือด25
51ยาเหลืองปิดสมุทรแก้ท้องเสีย70
52ยาแฮ่มแคปซูลบำรุงโลหิต ลดน้ำตาลในเลือด70
53ยาฟ้าสดใสต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อยับยั้งมะเร็ง เนื้องอก ริดสีดวง ภูมิแพ้70
54ยาหนึ่งพันตำลึงเจริญอายุ  เจริญปัญญา บำรุงเสียง แก้โรค ๑,๐๐๐ จำพวก70
55ยาแก้ลมลดไขมัน แก้โรคในท้อง  แก้ลมมึนศีรษะป้องกันเส้นเลือดอุดตัน70
56ยารักษาความดันโลหิตสูงรักษาความดันโลหิตสูง70
57ยาโรคผิวหนังรักษาโรคผิวหนังได้ทุกชนิด70
58ยาจันทน์หฤทัยแก้ไขทับฤดู แก้ไข้ทั้งปวง70
59ยาอัมพฤกษ์-อัมพาตแก้โรคอัมพฤกษ์-อัมพาต70
60ชารักษาโรคเบาหวานบรรเทาอาการเบาหวาน25
61ยาแดงสีเสนบำรุงโลหิต แก้ประจำเดือนมีน้อย มาไม่ปกติ แก้มุตกิตระดูขาว70
62ยารักษาความดันโลหิตต่ำแก้อาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ โลหิตน้อยและโลหิตจาง70
63ยามหาเสน่ห์ กระชับช่องคลอด บรรเทาอาการวัยทอง ช่วยฟื้นฟูความสาว300
64ยาริดสีดวงทวารบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร70
65ยาหอมจิตรารมณ์บรรเทาอาการโรคหัวใจ70
66ยาอมมะแว้ง ( T-Heab )บรรเทาอาการเจ็บคอ15
67ยาอมมะแว้ง ( บ๊วย )บรรเทาอาการเจ็บคอ10
68ยาถ่ายดีเกลือฝรั่งแก้อาการท้องผูก70
69ยาบำรุงสมอง สูตร 2บำรุงสมอง ความจำดี ไม่หลงลืมง่าย70
70ยาบำรุงไฟธาตุบำรุงไฟธาตุหญิงสาว70
71ยาประสะกะเพราแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง70
72ชุดอบใช้อบตัว บำรุงผิว35
73ลูกประคบใช้ประคบผิว ลดอาการบวม ปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ35
74ยาวัยทองแก้อาการวัยทอง ร้อนวูบวาบ70
เลขที่บัญชี  602-129-11-66ธนาคารกรุงไทย สาขาวังทอง 
ชื่อบัญชีวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก